THA  ENG   JPN
หน้าหลัก > เรื่องจริงของเด็กนักเรียนทุน EDF > นักสู้บนสังเวียนแห่งโชคชะตา
นักสู้บนสังเวียนแห่งโชคชะตา
สวัสดีครับ ผม ด.ช. จักรพงษ์  เอื้อมกิจการดี  ชื่อเล่น มาร์ช  อายุ 12 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเชียงสาศิลปสถาน จังหวัดกาฬสินธุ์   ผมเป็นลูกคนเดียวของพ่อกับแม่ผม ซึ่งท่านทั้งสองได้หย่าร้างกันตั้งแต่ผมยังเล็ก พ่อได้แต่งงานใหม่และย้ายไปอยู่กับครอบครัวใหม่ ส่วนตัวผมอยู่กับปู่ และย่าตั้งแต่เด็ก 

ผมรู้แค่ว่าพ่อย้ายไปทำงานรับจ้างอยู่กรุงเทพมหานคร ปู่ของผมมีโรคประจำตัวป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ไม่สามารถทำงานได้เหมือนคนทั่วไป ส่วนย่าเป็นโรคความดันต้องไปหาหมออยู่เป็นประจำ ย่าผมเป็นคนเดียวที่หารายได้มาจุนเจือครอบครัวด้วยการ งมหอยตามหนองน้ำใกล้บ้าน ซึ่งบางวันก็ได้มาก บางวันก็ได้น้อย มีบางวันไม่มีเพียงพอที่จะนำไปขาย


น้องมาร์ช และย่า ผู้ที่หารายได้มาจุนเจือครอบครัวเพียงคนเดียว
 
บ้านผมต้องซื้อข้าวกินเพราะไม่มีที่นาทำกิน บ้านที่อยู่ตอนนี้ก็เป็นของญาติที่เขาให้อยู่อาศัย ถ้าหากเขากลับมาผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมจะไปอยู่ที่ไหน บ้านผมไม่เหมือนคนอื่นเพราะบ้านผมยังเป็นพื้นดิน ไม่ใช่พื้นปูนหรือพื้นกระเบื้องเหมือนคนอื่น
 


บ้านที่ญาติให้อยู่อาศัยไปก่อน ซึ่งยังเป็นพื้นดิน ไม่ใช่พื้นปูนหรือพื้นกระเบื้อง
 
บางวันย่าไม่สบายบ้านผมจะไม่มีเงินซื้อกับข้าวกิน ก็จะอาศัยปลาแห้งที่ตากไว้มาปิ้งกิน บางครั้งผมอยากมีรายได้ช่วยย่า ผมจะไปชกมวยตามงานบุญที่จัดขึ้นก็พอมีรายได้ครั้งละ 200 บาท ได้เงินมาก็ให้ย่าเก็บไว้ซื้อข้าว ผมได้เงินโรงเรียนวันละ 10-20 บาท บางวันก็ไม่ได้เลย เพราะย่าบอกว่าไม่มีให้ไปทานอาหารกลางวันที่โรงเรียนเลย ผมจะแบ่งฝากออมทรัพย์กับคุณครูส่วนหนึ่ง เพื่อเอาไว้สำหรับเข้าค่ายลูกเสือ ไปทัศนศึกษา
 

บางครั้งน้องมาร์ชจะชกมวยเพื่อหาเงินให้ย่าเก็บไว้ซื้อข้าว และฝากออมทรัพย์กับคุณครู
 
ผมชอบเรียนวิชาพลศึกษา เพราะผมชอบเล่นกีฬาและออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงเนื่องจากผมเป็นคนตัวเล็กที่สุดในห้อง งานอดิเรกของผมคือเตะฟุตบอลกับเพื่อนๆ ที่วัด และซ้อมมวย คติประจำใจของผมคือ “ คนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกจะทำดีได้ ”
 

น้องมาร์ช และครอบครัวดีใจมาก ที่ครูเสนอชื่อเขาในการขอทุนฯ มูลนิธิ EDF

ถ้าผมได้ทุนเรียนต่อชั้น ม.1 ในปี 2564 นี้ ผมจะนำไปซื้ออุปกรณ์การเรียน และรองเท้านักเรียนที่เล็กแล้ว ผมอยากเรียนที่โรงเรียนกีฬาจนจบ ม.6 เพราะมันคือความฝันของผม หรือถ้าเป็นไปไม่ได้ผมก็อยากเรียนต่อสายอาชีพ เรียนจบจะได้หาเงินช่วยย่าครับ ถ้าหากผมได้รับทุนในครั้งนี้ผมจะเก็บเอาไว้ใช้ในการเรียนหนังสือ และใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดครับ

ในปีการศึกษา 2564 นี้ ยังมีเด็กนักเรียนที่ขาดแคลนอีกไม่น้อยกว่า 10,000 คน ที่กำลังต่อสู้อยู่บนสังเวียนแห่งโชคชุะตา เพื่อไขว่คว้าอนาคตที่ดีขึ้นจากการศึกษา เหมือนเช่นน้องมาร์ช เพียงแต่พวกเขายังขาดโอกาส และการสนับสนุนเพื่อให้ความหวังของพวกเขาได้เปล่งประกาย และเข้าใกล้ความเป็นจริง การแบ่งปันแม้เพียงเล็กน้อยจากคุณในวันนี้ ผ่านโครงการทุนการศึกษามูลนิธิ EDF เพื่อเด็กนักเรียนด้อยโอกาส สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตของเด็กๆ เหล่านี้ได้ตลอดไป

 
2021-01-27 | เรื่องจริงของเด็กนักเรียนทุน EDF | เปิดอ่าน 5268

ลงทะเบียนรับข้อมูลข่าวสาร EDF

มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา(EDF)
594/ 22 พาทิโอ เรสซิเดนซ์ รัชโยธิน ซอยพหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
โทร: 02-579-9209 ถึง11 | Line: @edfthai | อีเมล์: [email protected]
Connect with EDF        
มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนาเป็นองค์กรสาธารณกุศลลำดับที่ 255
ทุกการบริจาคผ่าน มูลนิธิฯ สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีตามกฎหมาย
© 2011 EDF-Thailand