โดยหลังเลิกเรียนและในวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ น้องนัทจะช่วยที่บ้านสานหวดอยูเสมอ โดยในวันหนึ่งๆจะสานหวดได้ประมาณ 10 อัน โดยหลังจากหักต้นทุนแล้วจะได้กำไรประมาณอันละ 3 บาท


 

บ้านไม้หลังเก่าที่น้องนัท อาศัยอยู่กับพ่อ แม่และพี่ชายในปัจจุบัน
 

ทุกๆวัน น้องนัทจะเดินเท้าไป-กลับ โรงเรียนที่อยู่ห่างจากบ้านไปประมาณ 1 กิโลเมตร โดยคุณครูบอกว่า น้องนัท เป็นเด็กขยัน ตั้งใจเรียน และสอบได้เกรด 4 ในทุกวิชา นอกจากนี้ ยังเป็นเด็กที่มองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ
 

น้องนัทฝันอยากเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ เพราะชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์ และมักได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนโรงเรียนไปสอบแข่งขันคณิตศาสตร์อยู่เสมอ เขาจึงได้สมัครขอรับทุนการศึกษาจากมูลนิธิ EDFในปีการศึกษา 2558 นี้เพื่อเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น และสานต่อความฝันให้เป็นจริงต่อไป

 

น้องนัท ขณะกำลังสานหวดนึ่งข้าวเหนียวกับคุณแม่ที่แคร่หน้าบ้าน

เรื่องราวของน้องนัท ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความพยายามและมุ่งมั่นของเด็กนักเรียนยากจนในพื้นที่ชนบทห่างไกล ที่มีความฝันอยากจะมีอนาคตที่ดีขึ้นจากการศึกษา เพียงแต่ยังขาดการสนับสนุนและช่วยเหลือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ทุนการศึกษา” ที่จะทำให้พวกเขามีโอกาส มีความรู้และปัญญา เพื่อใช้ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ในชีวิต เพื่อไปถึงจุดหมายปลายทางที่ฝันไว้ได้ต่อไป
 

เด็กชายปาณัสม์ คล้ายกับคำ หรือ น้องนัท อายุ 12 ปี