THA  ENG   JPN
หน้าหลัก > เรื่องจริงของเด็กนักเรียนทุน EDF > ของขวัญปีใหม่ของดาว
ของขวัญปีใหม่ของดาว
หากพูดถึงระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร คนส่วนใหญ่อาจมองว่าเป็นระยะทางที่ไม่ไกลนักในการเดินเท้าของคนทั่วไป  แต่สำหรับเด็กหญิงตัวเล็กๆที่ต้องเดินไป-กลับระหว่างบ้านและโรงเรียนเป็นประจำทุกวัน ผ่านคันนาดิน ที่รอบข้างไม่มีบ้านเรือนผู้คนอยู่อาศัย และไม่มีแม้แต่เสาไฟฟ้าส่องสว่างข้างทางแล้ว อาจดูเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก และอันตราย 

“บ้านของหนูเป็นเพิงอยู่กลางทุ่งนา ทุกๆวันหนูจะเดินเท้าผ่านคันนาดินลูกรังไปโรงเรียนระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ถ้าในช่วงฤดูฝน หรือวันที่ฝนตก ก็จะลำบากหน่อยค่ะ เพราะโคลนจะกระเด็นเลอะรองเท้า และชุดนักเรียน เวลาเดินจะต้องถือไม้ไปด้วยหนึ่งอัน ไว้ป้องกันสัตว์มีพิษต่างๆ เช่นงู และตะขาบ” น้องดาว หรือ ด.ญ.แสงดาว บุญศรี เด็กนักเรียนทุนมูลนิธิEDF ชั้นม.2 โรงเรียนบ้านโนนดู่ จ.อำนาจเจริญ เล่าให้เราฟังถึงความยากลำบากในการเดินทางไปโรงเรียนของเธอ


เส้นทางผ่านคันนาดินลูกรังยาว 1กม. ที่น้องดาวต้องใช้เดินทางไปกลับโรงเรียนในทุกวัน

เนื่องจาก ไม่มีบ้าน และที่ดินทำกินของตนเอง ครอบครัวของน้องดาว จึงต้องมาอาศัยอยู่ในที่นาของญาติ เพื่อแลกกับการช่วยดูแลที่นา และช่วยทำนา เกี่ยวข้าว บ้านที่อยู่อาศัยเป็นเพิงไม้เก่ามุงด้วยสังกะสีและหญ้าคา ซึ่งเดิมเคยเป็นโรงเก็บอุปกรณ์การเกษตรมาก่อน ไม่มีไฟฟ้า และน้ำประปา และไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ทางเข้าออกเพียงทางเดียวคือผ่านคันนาดิน ที่ในเวลากลางคืนจะมืดจนแทบมองไม่เห็นทาง

 

น้องดาว กับแม่และพ่อในเพิงไม้เก่าที่ปลูกอยู่ในที่นาของญาติ ไม่มีน้ำประปาและไฟฟ้า


ทางเข้าออกเดียวของบ้านน้องดาวคือต้องผ่านคันนาดินแคบๆ
 
พ่อของน้องดาวเป็นคนพิการ มีแขนข้างเดียว อาชีพรับจ้างทั่วไป ด้วยความพิการจึงไม่สามารถทำงานได้เท่ากับคนปรกติ บ่อยครั้งที่นายจ้างจ่ายค่าแรงให้เพียงวันละ 200 บาท ส่วนแม่ของน้องดาวจะมีรายได้เพียงเล็กน้อยจากการช่วยญาติทำนา เกี่ยวข้าว และเฝ้านา ดังนั้นรายได้หลักของครอบครัวจึงมาจากพ่อ ซึ่งหลายครั้งที่ไม่พอใช้จ่าย ก็ต้องอาศัยหยิบยืมจากญาติพี่น้อง

 

แม้จะพิการมีแขนข้างเดียวแต่พ่อของน้องดาวก็ถือเป็นกำลังหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว
 
นอกจากจะรับผิดชอบเรื่องการเรียนของตัวเองแล้ว น้องดาวยังมีหน้าที่ช่วยเหลือแม่ทำงานบ้านทุกอย่าง รวมไปถึงการให้อาหารเป็ด ไก่ รดน้ำผักที่ปลูกไว้เพื่อนำมาทำอาหาร  ส่วนที่เหลือก็นำไปขายให้กับชาวบ้าน นอกจากนี้ในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ยังออกไปช่วยพ่อรับจ้างทำนา และช่วยยกเครื่องมือที่มีน้ำหนักมากๆแทนพ่อ  เนื่องจากพ่อมีแขนเพียงข้างเดียว สำหรับเด็กผู้หญิงอายุ 14 ปี อาจจะดูว่าเป็นงานที่หนักเกินกำลัง แต่เธอก็ไม่เคยบ่น เพราะเธออยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อกับแม่ให้ได้มากที่สุด

 

ทุกเย็นหลังเลิกเรียนและวันหยุดเสาร์อาทิตย์น้องดาวจะช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน รดน้ำแปลงผัก
และให้อาหารเป็ดไก่


 
คุณครูกรุณา ชุมจันทร์ ซึ่งเป็นผู้ดูแลเด็กนักเรียนทุนมูลนิธิ EDF ประจำโรงเรียนบ้านโนนดู่ เล่าให้เราฟังว่า
“ถึงแม้ว่าฐานะทางบ้านของน้องดาวจะยากจน แต่เธอก็ไม่เคยเก็บมาเป็นปมด้อย แต่กลับเป็นแรงผลักดันให้มุมานะตั้งใจเรียนหนังสือมากขึ้น และมีผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก (เกรดเฉลี่ย 3.83) นอกจากนี้เธอยังเป็นที่รักของเพื่อนๆ และช่วยเหลืองานคุณครูเป็นประจำ ส่วนพ่อ และแม่ ก็ดูแลเอาใจใส่ และสนับสนุนอยากให้ได้เรียนหนังสือสูงๆ จะได้ไม่ลำบากเหมือนพ่อแม่ แต่ติดขัดเรื่องฐานะทางบ้านที่ยากจน ส่วนวิชาที่น้องดาวทำได้ดีคือภาษาอังกฤษ เพราะชอบเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ  และมีความฝันอยากเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในอนาคต”

 

คุณครูกรุณา ชุมจันทร์ ผู้ดูแลเด็กนักเรียนทุนมูลนิธิ EDF ประจำโรงเรียนบ้านโนนดู่
ขณะเดินทางไปเยี่ยมบ้านของน้องดาวตอนสมัครขอรับทุนการศึกษา
 
เมื่อเราถามน้องดาวถึงของขวัญที่เธออยากจะได้ในวันปีใหม่ เธอตอบกับเราด้วยแววตาที่มีความหวังว่า “หากหนูมีจักรยานซักคันที่สามารถปั่นไปโรงเรียน ปั่นไปช่วยพ่อทำนา ปั่นเอาผักที่ปลูกไปขายได้ก็คงจะดีค่ะ”
                                                                                                                                                                         
ในเทศกาลแห่งความสุขและการแบ่งปันที่กำลังจะมาถึงนี้  การมอบจักรยานสักคันหนึ่งให้แก่เด็กนักเรียนที่ขาดแคลน นอกจากท่านจะได้แบ่งปันรอยยิ้ม และความสุขให้กับน้องๆที่ได้รับแล้ว ท่านยังช่วยให้เด็กคนหนึ่งได้เดินทางไปโรงเรียน และทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกและปลอดภัย และยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กๆได้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีอีกด้วย

 

หากเป็นไปได้ในปีใหม่นี้น้องดาวอยากได้จักรยานเพื่อปั่นไปโรงเรียน และปั่นไปช่วยพ่อทำนา
 
ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2561 ท่านที่เป็นผู้บริจาคมูลนิธิ EDF อยู่แล้วสามารถเลือกบริจาคชุดของขวัญ ผ่านโครงการของขวัญแห่งการเรียนรู้ของมูลนิธิEDF เพื่อมอบให้เด็กนักเรียนทุนที่ท่านอุปการะ หรือแนะนำให้คนที่ท่านรู้จักเพื่อร่วมส่งต่อความสุข และรอยยิ้มให้แก่น้องๆที่ขาดแคลนคนอื่นๆได้เช่นกัน ซึ่งสำหรับเด็กด้อยโอกาสหลายๆคนแล้ว ของขวัญที่ท่านมอบให้นั้นอาจเป็นของขวัญชิ้นแรกในชีวิตของพวกเขา และยังถือเป็นอีกหนึ่งกำลังใจสำคัญ ให้พวกเขามีความมุ่งมั่นตั้งใจ ในการศึกษาเล่าเรียน เพื่ออนาคตที่ดีต่อไปในภายภาคหน้า

 
2017-11-08 | เรื่องจริงของเด็กนักเรียนทุน EDF | เปิดอ่าน 9389

ลงทะเบียนรับข้อมูลข่าวสาร EDF

มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา(EDF)
594/ 22 พาทิโอ เรสซิเดนซ์ รัชโยธิน ซอยพหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
โทร: 02-579-9209 ถึง11 | Line: @edfthai | อีเมล์: [email protected]
Connect with EDF        
มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนาเป็นองค์กรสาธารณกุศลลำดับที่ 255
ทุกการบริจาคผ่าน มูลนิธิฯ สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีตามกฎหมาย
© 2011 EDF-Thailand