นาซีฮะห์ ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.5 จังหวัดนราธิวาส เป็น 1 ในเด็กกำพร้า
ที่ต้องสูญเสียพ่อจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ตั้งแต่ปี 2549
หนูทราบดีว่าแม่ต้องทำงานหนัก สู้งานทุกอย่าง ไม่เคยเกี่ยงว่างานจะหนักหรือเบาเพื่อให้ทุกคนในครอบรัวได้กินอิ่ม แม่เป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ แม่คงเหนื่อยมาก แต่แม่ไม่เคยบ่นให้ใครได้ยิน หนูจึงช่วยงานแม่ทุกอย่างเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระ และตั้งใจเรียนหนังสือ เพื่อจะได้เรียนจบสูงๆ มีงานมีเงินมาดูแลแม่และครอบครัว
นาซีฮะห์ และคุณแม่ที่ต้องทำงานหนักเพียงคนเดียว
เพื่อดูแลทุกคนในครอบครัวให้ได้กินอิ่ม
เหตุการณ์ในครั้งนั้นที่ทำให้หนูต้องสูญเสียพ่อไป ตั้งแต่หนูยังจำความไม่ได้ แม่เล่าให้ฟังว่าตอนนั้นหนูอายุเพียงแค่ 2 เดือน ในปี 2549 ได้มีกลุ่มคนไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนกราดยิงเข้ามาในบ้านของเรา มีคนโดนยิงทั้งหมด 4 คน รวมทั้งแม่ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย แม่โดนยิงที่แขนขวา ต้องใส่เหล็กดามแขน และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานกว่า 9 วัน คืนนั้นถือเป็นคืนที่เลวร้ายที่สุดของครอบครัวของเรา ที่ทำให้หนูไม่มีโอกาสได้เจอหน้าพ่อ
นาซีฮะห์รู้ดีว่าแม่ทำงานเหนื่อย แต่ไม่เคยบ่นให้ใครได้ยิน
เธอจึงช่วยเหลืองานบ้านทุกอย่างที่ช่วยได้
จากวันนั้นถึงวันนี้ เป็นระยะเวลา 17 ปีแล้ว ที่หนูเติบโตมาโดยไม่เคยเห็นหน้าของพ่อ และยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าหน้าตาของพ่อเป็นอย่างไร ไม่เคยสัมผัสว่าอ้อมกอดของพ่อเป็นอย่างไรจะอบอุ่นแค่ไหน ตอนเด็กๆ เวลาหนูเห็นเพื่อนๆ มีทั้งพ่อและแม่อยู่พร้อมหน้ากัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน บางครั้งหนูก็รู้สึกอิจฉาพวกเขาลึกๆ อยู่ในใจ อยากจะมีแบบนั้นบ้าง แต่มันก็เป็นได้แค่ความคิดของเด็กๆ เพราะถึงอย่างไร ทุกอย่างก็ไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ มันคงเป็นความโชคร้ายของครอบครัวหนู ที่เกิดเหตุการณ์ในคืนนั้น แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ ที่หนูยังคงมีแม่ มีสองมือของแม่ที่แสนจะอบอุ่นมาโอบกอด และหอมแก้มหนูให้กำลังใจหนูจนถึงทุกวันนี้
นาซีฮะห์ เติบโตมาโดยไม่เคยเห็นหน้าของพ่อ และยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำ
ว่าหน้าตาของพ่อเป็นอย่างไร
สุดท้ายนี้หนูหวังว่าจะได้รับความเมตตาจากท่านในการให้โอกาสหนูได้รับทุนการศึกษา หนูจะตั้งใจเรียน และสัญญาว่าจะเรียนให้สูงๆ เท่าที่ความสามารถหนูจะทำได้ เป็นลูกที่ดี และเป็นคนดีของสังคมค่ะ
|