|
|
|
“ถึงพูดได้ไม่ชัด แต่หนูก็อยากให้ท่านรับฟัง” |
|
ทุกวันนี้มาลีอาศัยอยู่กับปู่ที่หลังค่อมเดินไม่ค่อยสะดวกอายุ 84 ปีและย่าที่ตาบอดอายุ 70 ปี จึงทำได้แต่งานรับจ้างที่พอมีให้ทำบ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ทำแทบไม่ไหว พี่ชายและน้องสาวอีก 3 คน ลูกพี่ลูกน้องวัยใกล้กันและญาติอีก 8 คน ส่วนพ่อแม่ไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ นานๆทีจึงจะส่งเงินไม่กี่ร้อยบาทมาให้
|
ทั้ง 14 ชีวิตในกระท่อมโย้ๆ พักอยู่รวมกันโดยอาศัยแสงสว่างจากหลอดไฟ 1 หลอด ซึ่งเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าเพียงชิ้นเดียวที่มีในบ้าน มาลีจึงไม่เคยได้ดูทีวี ไม่มีแม้กระทั่งหม้อหุงข้าวไฟฟ้าหรือพัดลม เนื่องจากความขัดสนของผู้เป็นปู่กับย่า บางวันครูจะแบ่งกับข้าวที่พอมี ให้มาลีเอากลับบ้านไปทานกับครอบครัว
ความใฝ่ฝันของมาลี คือการได้เป็นพยาบาลเพื่อดูแลปู่ย่า และเลี้ยงดูคนในบ้าน เธอจึงสมัครขอรับทุนการศึกษาจากมูลนิธิ EDF มาลีทราบดีว่า เธอพูดไม่ชัด แต่ก็หวังว่า เสียงของเธอคงจะดังพอ ที่จะเป็นตัวแทนให้กับเด็กนักเรียนอีกมากมายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อยู่ในวังวนของความยากไร้ ขาดความอบอุ่น ขาดการดูแลจากพ่อแม่เช่นเธอและน้องๆ ได้มีอนาคตที่ดีขึ้นจากการศึกษา
วันนี้เด็กๆ เหล่านี้ตกอยู่ในความเสี่ยงของการเป็นแรงงานเด็กไร้ฝีมือ การสมรสก่อนวัยอันควร หรือตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ เพียงแค่พวกเขาเกิดในครอบครัวที่ยากจน ขาดการดูแลเอาใจใส่ที่เหมาะสม ไม่มีแม้แต่เงินที่จะเป็นค่าเดินทาง หรือค่าอาหาร วันนี้เด็กๆเหล่านี้กำลังรอโอกาส...โอกาสที่อาจจะเปลี่ยนแปลง ชีวิตของพวกเขาตลอดไป
(รูปน้องมาลี (คนที่ 3 จากด้านซ้ายมือ)กับ ปู่-ย่า และ พี่น้องที่อยู่ร่วมกัน)
|