ด้วยความยากจน พ่อแม่ของน้องตาวจึงต้องจากบ้านเพื่อไปเป็นแรงงานงานที่ต่างจังหวัดเมื่อหลายปีก่อนและก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกเลย ยายจึงเป็นเพียงผุ้เดียวที่คอยดูแลและส่งเสียน้องตาวตลอดมา บ้านของน้องตาวจึงไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ยายจึงมีรายได้หลักเพียงอย่างเดียวจากการรับจ้าง หากหมดฤดูเกี่ยวข้าว ยายก็จะรับจ้างทั่วไปในหมู่บ้านได้เงินวันละไม่กี่สิบบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว ทุกวันนี้ยายอายุมากขึ้นไม่ค่อยมีคนจ้าง ทำให้ในบางวันน้องตาวต้องไปขอยืมข้าวสารจากเพื่อนบ้าน และไxเก็บผักเท่าที่พอหาได้แถวบ้านเพื่อมาทำอาหารให้ยายกิน
น้องตาวได้เงินไปโรงเรียนเพียงวันละ 1-3 บาทเท่านั้น และในวันไหนที่ยายไม่มีเงิน น้องตาวก็จะไม่ได้เงินไปโรงเรียน หลายครั้งที่เพื่อนๆและคุณครูจะแบ่งอาหารให้น้องตาวกินที่โรงเรียน และนำบางส่วนกลับมาให้ยายที่บ้าน
น้องตาวพูดกับเราว่า “หนูไม่เคยได้รับทุนการศึกษาจากที่ไหนเลยเพราะหนูหัวไม่ค่อยดี เรียนไม่เก่งเหมือนคนอื่น วันที่คุณครูบอกหนูว่าใบสมัครขอรับทุนของหนูได้รับการพิจารณาจากมูลนิธิฯ และจะมีคนใจดีให้ทุนหนูเรียน หนูดีใจมาก หากหนูได้รับทุนหนูจะตั้งใจเรียนไม่ทำให้ยาย และคนที่ให้ทุนหนูผิดหวังค่ะ”
แม้ในวันเปิดเทอมนี้ น้องตาว จะยังคงได้เงินค่าขนมไปโรงเรียนวันละ 1 บาท แต่เธอก็ยังคงมีความหวังว่าจะได้รับโอกาสที่จะได้เรียนหนังสืออย่างอิ่มท้อง ไม่ต้องทนหิว และไม่ต้องเป็นภาระของยายอีกต่อไป
การตัดสินใจของท่านในวันนี้ เพื่อบริจาคทุนการศึกษาผ่านโครงการทุนการศึกษา EDF อาจสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ตลอดไปให้แก่ชีวิตของ “น้องตาว” และเด็กๆอีกจำนวนมากที่ยังรอคอยที่จะกลับไปเรียนหนังสืออย่างอิ่มท้องอีกครั้ง
|