นอกจากเรียนหนังสือ น้องปิ๊กยังมีความสามารถพิเศษด้านดนตรี และเป็นักดนตรีวงโธวาทิต ของโรงเรียน เล่นได้ทั้งเล่นกลองใหญ่ และกลองชุด ซึ่งล่าสุดวงโยธวาทิตของโรงเรียนได้ไปร่วมแข่งขันในระดับจังหวัด และได้รางวัลชนะเลิศลำดับที่2 อีกด้วย
น้องปิ๊กมีความสามารถพิเศษด้านดนตรี และเป็นนักดนตรีวงโยธวาทิตของโรงเรียน
ล่าสุดวงโยธวาทิตของโรงเรียนได้ไปร่วมแข่งขันในระดับจังหวัดและได้รางวัลที่2
หลังเลิกเรียนน้องปิ๊กมักจะซ้อมดนตรีที่โรงเรียน กับเพื่อนๆในวงโยธวาทิต หลังจากนั้นจึงไปช่วยพ่อ ทำงานรับจ้างที่ร้านก๋วยเตี๋ยว เช่นเสิรฟ์ และล้างจาน ได้ค่าจ้างครั้งละประมาณ 80-100บาท โดยเฉพาะช่วงนี้ที่แม่ไม่สามารถทำงานได้น้องปิ๊กจึงต้องมาช่วยพ่อทำงานแทบทุกวัน
หลังจากซ้อมดนตรีที่โรเงรียน น้องปิ๊กจะไปช่วยพ่อทำงานรับจ้างที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็นประจำ
น้องปิ๊กจะช่วยงานในร้านทุกอย่างที่พอช่วยได้เช่นเสิร์ฟ และล้างจานโดยได้ค่าจ้าครั้งละ 80-100บาท
น้องปิ๊กมีความฝันอยากเป็นนักดนตรี หรือดุริยางค์ทหาร จึงอยากเรียนต่อให้จบชั้นมัธยมศึกษาเพื่อสอบเรียนต่อตามที่ตั้งใจ คุณครูเห็นถึงควมกตัญญู และความมุ่งมั่น ตั้งใจจริงของเขา จึงได้ส่งใบสมัครเพื่อขอรับทุนจากมูลนิธิEDF ในปีการศึกษา 2563ที่กำลังจะมาถึงนี้
น้องปิ๊กมีความฝันอยากเป็นนักดนตรี หรือดุริยางค์ทหารจึงสมัครขอทุนเพื่อเรียนต่อจนจบชั้นมัธยมศึกษาเพื่อสานต่อความฝันต่อไป
น้องปิ๊กเขียนในจดหมายขอทุนข้อความตอนหนึ่งว่า “ถ้าผม มีโอกาสได้รับทุนการศึกษา ผมจะพยายามตั้งใจเรียนให้เต็มที่ เป็นคนดี ฝึกฝนตนเองด้านดนตรีให้เก่งๆ ผมขอเพียงอย่างน้อยได้มีโอกาสได้เรียนให้สูงที่สุดเท่าที่ความสามารถตัวเองจะมี เพราะการเรียนเป็นสิ่งสำคัญต่ออนาคต และทำให้มีงานดีๆทำ จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ และดูแลคุณตา คุณายายต่อไปครับ”
|