ปัจจุบัน น้องแพท อาศัยอยู่กับ แม่ อายุ 45 ปี พ่อเลี้ยง อายุ 49 ปี และน้องสาวต่างบิดา อายุ 8 ปี อีก 1คน ในเพิงมุงหญ้าคา ผนังทำด้วยเสื่อไม้ไผ่สาน ปลูกอยู่บนลานหิน ในบริเวณวัดเขาคีรีวงกต ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาสูง ในตำบลบ้านแยง อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องจุดตะเกียงเพื่อให้แสงสว่างในเวลากลางคืน และไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ เวลามีฝนตกหนัก หรือพายุ ก็แทบจะอยู่อาศัยไม่ได้ ต้องพากันไปหลบฝนในบริเวณวัด พ่อเลี้ยงของแพท มีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีรายได้ไม่แน่นอน ส่วนแม่เป็นแม่บ้านประจำวัด ไม่มีรายได้ แต่ได้รับอาหารจากทางวัดเป็นค่าตอบแทน
 

(ซ้าย) น้องแพท กับ นางวราภรณ์ พาครุฑ (มารดา) อายุ 45ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นแม่บ้านประจำวัด 
และ (ขวา) น้องแพท กับ น้องแพรว อายุ 8 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวต่างบิดา 

 
เนื่องจากบ้านของน้องแพทตั้งอยู่ในวัดบนภูเขาซึ่งไม่มีเด็กนักเรียนอื่นอยู่อาศัย ดังนั้นในทุกๆวัน น้องแพท และน้องสาวจึงต้องนั่งรถรับจ้างเหมาเป็นรายเดือนเพื่อเดินทางไปโรงเรียนซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 15 กิโลเมตร ดังนั้นในเวลาว่าง และวันหยุด นอกจากน้องแพท จะช่วยแม่ทำงานบ้าน ดูแลน้อง และทำความสะอาดวัดแล้ว เธอยังต้องหางานพิเศษทำ เช่นรับจ้างซักผ้า ล้างจาน เพื่อหาเงินมาช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวอีกทางหนึ่ง เธอจึงไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวเล่น เหมือนกับเด็กๆคนอื่นๆ 
 

สภาพบ้านของครอบครัวน้องแพทซึ่งเป็นเพิงมุงด้วยหญ้าคา สร้างอยู่บนลานหินในวัดเขาคีรีวงกต จ.พิษณุโลก

 
ครูวรวิทย์  มาดิษฐ์ ครูที่ปรึกษาของน้องแพท บอกกับเราว่า “เด็กหญิงพัชราภรณ์ มีความประพฤติที่ดีดังนี้คือ “เป็นลูกที่ดี” ช่วยเหลือพ่อแม่ ด้วยการทำงานบ้านทุกวัน “เป็นเด็กวัดที่ดี” ช่วยงานวัดทุกอย่าง เช่นกวาดลานวัด ถูอุโบสถ “เป็นนักเรียนที่ดี”  ช่วยเหลืองานครูทุกคน ตั้งใจเรียนทุกวัน “เป็นพี่ที่ดี” ช่วยเหลือดูแลน้องทุกเรื่อง หากน้องทานข้าวไม่อิ่ม ก็จะยอมอดข้าวของตนให้น้องทาน  “เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เพื่อนๆ และรุ่นน้อง” โดยได้รับเลือกตั้งเป็นประธานนักเรียนในปีการศึกษา 2558 มีความเป็นผู้นำ และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่รุ่นน้อง นอกจากนี้ยังทำงานพิเศษหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว เช่นรับจ้างทำความสะอาดบ้าน ล้างจาน เป็นต้น”
 

ในเวลาว่าง และวันหยุด น้องแพทจะช่วยแม่ทำงานบ้าน และทำความสะอาดวัด รวมถึงทำงานพิเศษหารายได้เสริมอีกด้วย

 
นอกเหนือจากมีผลการเรียนที่ดีเยี่ยมแล้ว น้องแพทยังมีความสามารถทางวิชาการ และกีฬา ที่สร้างชื่อเสียงให้แก่โรงเรียนอีกเป็นจำนวนมาก เช่น รางวัลชนะเลิศระดับภาคเหนือ จากการแข่งขันตอบปัญหาวิชาการอาเซียนศึกษา ปี2558 รางวัลรองชนะเลิศ การแข่งขันตอบปัญหาภาษาอังกฤษ Asean Quiz ปี 2557  รางวัลชนะเลิศ การแข่งขันกีฬาฟุตบอลหญิง ระดับเครือข่ายโรงเรียน ปีการศึกษา 2557 เป็นต้น
 

น้องแพทในขณะรับรางวัลชนะเลิศระดับภาคเหนือ ในโครงการแข่งขันตอบปัญหาทางวิชาการ
อาเซียนศึกษาปี 2558

 
น้องแพทมีความฝันอยากเป็นครู เพราะครูเป็นคนช่วยให้เด็กมีความรู้ และอบรมสั่งสอนให้นักเรียนเป็นคนดี  นอกจากนี้ เธอยังอยากที่จะเป็นครู เพื่อจะได้สอนหนังสือให้แก่เด็กๆที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลความเจริญเหมือนเช่นเธอ ให้ได้มีความรู้สูงๆ และมีโอกาสที่ดีในชีวิต
 

น้องแพทเป็นเด็กที่มีภาวะความเป็นผู้นำ เป็นที่รักของครู เพื่อนๆ และรุ่นน้อง 
จนได้รับเลือกเป็นประธานนักเรียน ในปีการศึกษา2559

 
ครุวรวิทย์ ยังได้ฝากฝังน้องแพทกับทีมงานของเราไว้ว่า “ผมเห็นเด็กคนนี้มา 4 ปี  เป็นเด็กที่ควรส่งเสริม เพื่อเป็นอนาคต และความหวังของครอบครัว  ชุมชน  และประเทศชาติ   เพราะเป็นเด็กที่คิดดี  ทำดี  เป็นตัวอย่างที่ดี เรียนดี แต่ขาดเพียงอย่างเดียวคือ “โอกาส” และ “ทุนทรัพย์” ในการศึกษาเล่าเรียน เท่านั้น  ผมเชื่อว่าหากเด็กคนนี้ได้รับการสนับสนุนที่ดีแล้ว เขาจะเป็นอนาคตที่ดีของชาติได้แน่นอนครับ” 
 

น้องแพท และครูวรวิทย์ มาดิษฐ์ ครูที่ปรึกษาที่ให้การสนับสนุนเธอมาโดยตลอด
รวมถึงได้ช่วยเหลือเธอในการสมัครขอรับทุนการศึกษาจากมูลนิธิ EDF เพื่อเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษา

                                                                                                                                               
ในขณะนี้ น้องแพท กำลังอยู่ในช่วงเตรียมตัวสอบเข้าเรียนต่อชั้นม.1 ในโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ ในปีการศึกษา 2559 ที่กำลังจะมาถึงนี้  ซึ่งเธอก็ยังไม่รู้เลยว่า ครอบครัวของเธอ จะสามารถส่งเสียเธอได้อีกนานแค่ไหน เธอจึงได้สมัครขอรับทุนการศึกษาจากมูลนิธิ EDF ในปี 2559 นี้ ด้วย “ความหวัง” เป็นอย่างยิ่งว่า เธอจะได้รับ “โอกาส” ที่อาจ เป็น “จุดเปลี่ยน” สำคัญ ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอตลอดไป

เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หลังจากท่านได้อ่านเรื่องราวของ "น้องแพท" ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนของเด็กนักเรียนที่กำลัง รอ "โอกาส" ที่จะมี "อนาคตที่ดีขึ้นจากการศึกษา" แล้ว ท่านจะตัดสินใจ “ให้” โอกาสทางการศึกษา แก่เด็กๆ เหล่านี้แม้เพียงสักหนึ่งคน ผ่านโครงการทุนการศึกษามูลนิธิ EDF เพื่อช่วยสร้างให้เด็กคนหนึ่งมี ภูมิคุ้มกันความยากจน และหลักประกันในอนาคตที่ดี เพราะ “ผู้มีการศึกษา ย่อมมีศักยภาพเปลี่ยนแปลงชีวิตด้วยตนเองได้ อย่างแท้จริง”