พันธกิจและวิสัยทัศน์
ผู้บริหารและบุคลากร
ความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส
รายงานทางการเงิน
กลุ่มมูลนิธิ EDF
ข้อมูลข่าวสารต่างๆ
ข่าวและกิจกรรมล่าสุด
เรื่องจริงของเด็กนักเรียนทุน
เสียงจากผู้บริจาค
ดาวน์โหลด
แบบฟอร์มการบริจาค
แผ่นพับ
รายงานผลการดำเนินงานประจำปี
ติดต่อ EDF
ร่วมงานกับ EDF
คำถามที่พบบ่อย
โครงการทุนการศึกษา
นักเรียนยากจนในระดับ ม.ต้น
นักเรียนเรียนดีแต่ยากจนในระดับ ม.ต้น
นักเรียนเรียนดีแต่ยากจนในระดับ ม.ปลาย / อาชีวศึกษา
นักเรียนพิการเรียนร่วมในโรงเรียนปกติ
นักเรียนกำพร้า 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้
โครงการส่งเสริมศักยภาพทางการศึกษา
โครงการห้องสมุด
โครงการส่งเสริมเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา
โครงการจักรยานยืมเรียน
โครงการส่งเสริมการเกษตรและการฝึกอาชีพ
โครงการโรงเรียนพึ่งตนเองเพื่อการพัฒนา
โครงการส่งเสริมสุขภาพและสุขอนามัย
โครงการส่งเสริมการพึ่งตนเองด้านสุขภาพ
โครงการบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน
โครงการอื่นๆ
โครงการกิจกรรมอาสา
โครงการท่องเที่ยวเชิงการศึกษา
บริจาคทุนการศึกษา
สนับสนุนโครงการต่างๆของEDF
ติดต่อกับเด็กนักเรียนทุนของท่าน
บริจาคสมทบทุนโครงการบรรเทา ทุกข์ฉุกเฉิน
ร่วมจัดกิจกรรมพิเศษกับ EDF
ร่วมเป็นอาสาสมัครEDF
โครงการเพื่อสังคมสำหรับบริษัทและองค์กร
THA
ENG
JPN
เกี่ยวกับEDF
พันธกิจและวิสัยทัศน์
ผู้บริหารและบุคลากร
ความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส
รายงานทางการเงิน
กลุ่มมูลนิธิ EDF
ข้อมูลข่าวสารต่างๆ >>
ข่าวและกิจกรรมล่าสุด
เรื่องจริงของเด็กนักเรียนทุน
เสียงจากผู้บริจาค
ดาวน์โหลด >>
แบบฟอร์มการบริจาค
แผ่นพับ
รายงานผลการดำเนินงานประจำปี
ติดต่อ EDF
ร่วมงานกับ EDF
คำถามที่พบบ่อย
หน้าหลัก
>
เรื่องจริงของเด็กนักเรียนทุน EDF
> ความหวังที่ยังไม่หายไปกับสายน้ำ
ความหวังที่ยังไม่หายไปกับสายน้ำ
จากเหตุการณ์อุทกภัยครั้งร้ายแรงทีสุดในรอบ30ปี ในพื้นที่กว่า 30 จังหวัดของประเทศไทยในช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน 2554 ที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัยจำนวนนับล้านคน บางคนต้องกลายเป็นผู้ว่างงาน ขาดรายได้ ในขณะที่อีกหลายคนต้องพลัดพรากจากครอบครัวและอพยพไปพักอาศัยอยู่ตามศูนย์พักพิงต่างๆ และคนอีกจำนวนมากต้องสูญเสียทรัพย์สินไปกับอุทกภัย
ในวันนี้เราขอนำเสนอเรื่องราวอีกมุมหนึ่งของครอบครัว
“น้องปิ”
หรือเด็กหญิง ปิยฉัตร นนทวัน เด็กหญิงวัย 12 ปี นักเรียนชั้นป.6 โรงเรียนบ้านคูเดื่อ ที่อาศัยอยู่กับตายายและน้องสาวเล็กๆอีก 2คนที่บ้านคูเดื่อ ตำบลแจระแม จังหวัดอุบลราชธานี บ้านคูเดื่อเป็นอีกหนึ่งในพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อาจจะไม่เป็นข่าวตามสื่อต่างๆมากนัก แต่ผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ เหมือนเป็นการซ้ำเติมทำชีวิตความเป็นอยู่ของทั้ง 5 ชีวิตในครอบครัวที่ลำบากอยู่แล้วให้แย่ลงไปอีก
พ่อแม่ของน้องปิแยกทางกันเมื่อหลายปีก่อน และทิ้งเธอกับน้องสาวอีกสองคนให้ตากับยายเลี้ยงดู พ่อกับแม่ไม่เคยกลับมาอีกเลยหลังจากนั้น ทำให้สองตายายต้องแบกรับภาระในการเลี้ยงดูหลานๆในวัยเรียนทั้งสามคน ในกระต๊อบเล็กๆที่สร้างบนที่ดินสาธารณะ มุงด้วยหญ้าคา เศษสังกะสี และไม้อัดเก่าๆที่พอหาได้ ที่บ้านน้องปิไม่มีโทรทศน์ จะมีก็เพียงแต่วิทยุทรานซิสเตอร์แบบใส่ถ่านของตา ที่ทำให้ครอบครัวนี้ได้รับรู้ข่าวสารจากโลกภายนอกบ้าง
บ้านของน้องปิตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่า
“หาดคูเดื่อ”
ซึ่งมีลักษณะเป็นเกาะที่มีแม่น้ำมูลล้อมรอบและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวริมน้ำแห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นประจำทุกวัน ยายของน้องปิจะหาบผลไม้ท้องถิ่นไปเร่ขายให้แก่นักท่องเที่ยวได้กำไรวันละ100-150บาทขึ้นอยู่กับจำนวนนักท่องเที่ยวแต่ละวัน หากวันไหนขายเหลือก็จะขาดทุน ส่วนตาของน้องปิอายุประมาณ 60 ปี มีอาชีพรับจ้างทั่วไปและมีรายได้จากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 500 บาท ในวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ น้องปิก็จะทำงานพิเศษ เป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารที่ให้บริการนักท่องเที่ยวบริเวณนั้น โดยได้รายได้ประมาณวันละ 70-100 บาท โดยเงินทั้งหมดที่ได้น้องปิจะให้ยายเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆในบ้าน โดยยายจะให้ค่าขนมเธอกับน้องอีกสองคนไปโรงเรียนรวมกันวันละ 10-20บาท
น้องปิ กับยายและน้องๆอีกสองคนในกระต๊อบมุงจากที่สร้างบนที่ดินสาธารณะบริเวณหาดคูเดื่อ
ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2554 ที่ผ่านมา น้ำจากแม่น้ำมูลได้เอ่อเข้าท่วมสูงบริเวณหาดคูเดื่อ และชุมชนรอบข้าง รวมถึงโรงเรียนบ้านคูเดื่อที่น้องปิเรียนอยู่ด้วย ทำให้น้องปิ และยายต้องขาดรายได้ เพราะไม่มีนักท่องเที่ยว และร้านอาหารต่างๆก็ถูกน้ำท่วมทั้งหมด ส่วนบ้านของน้องปิก็กลายสภาพเป็นเหมือนเกาะอยู่กลางน้ำจะเดินทางไปไหนมาไหนก็ยากลำบาก
ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2554 ที่เราได้ไปเยี่ยมบ้านน้องปิ แม้ระดับน้ำบริเวณรอบบ้านจะลดลงบ้างแล้วแต่น้ำส่วนใหญ่ก็ยังท่วมทั่วทั้งบริเวณหาดคูเดื่อ ทำให้น้องปิและครอบครัวต้องขาดรายได้เป็นเวลาเกือบ 3 เดือนแล้ว ยายต้องเอาเงินเก็บทั้งหมดที่มีไม่มากนักออกมาใช้จุนเจือครอบครัวระหว่างที่ไม่มีรายได้จนหมดไปตั้งแต่ไม่กี่สัปดาห์หลังน้ำท่วม ทุกวันนี้ทั้ง 5 ชีวิตในบ้านหลังนี้ดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยถุงยังชีพที่ทางหน่วยงานราชการจะนำมาแจกบ้างบางครั้ง
สภาพบ้านของปิยฉัตรในวันที่เราเดินทางไปเยี่ยม น้ำเริ่มลดลงบ้างแล้ว แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีน้ำล้อมรอบๆบ้านทำให้บ้านของเธอเป็นเหมือนเกาะกลางน้ำ
น้องปิพูดกับเราว่า
“หนูอยากให้น้ำลดเร็วๆ หนูจะได้กลับไปโรงเรียน ได้กลับไปทำงานอีกครั้ง หนูสงสารตากับยายที่ต้องลุยน้ำออกไปหาอาหารมาให้หนูกับน้องๆกิน เรือเราก็ไม่มี น้ำท่วมอย่างนี้ออกไปไหนก็ลำบาก ต้องคอยระวังงูหรือตะขาบไม่ให้มากัด”
“ยายก็ไม่รู้ว่าน้ำจะลดลงเมื่อไหร่ ถ้าน้ำลดแล้วทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ก็ไม่รู้ คงต้องใช้เวลากว่าร้านอาหารและนักท่องเที่ยวจะกลับมาเหมือนเดิม ยายก็ห่วงแต่หลานๆถ้าเราไม่มีเงินแล้วหลานๆจะเอาอะไรกิน จะไปโรงเรียนอย่างไร ไหนจะตาที่ก็ไม่ค่อยแข็งแรง ที่ดินทำกินเราก็ไม่มี บ้านยังต้องอาศัยที่หลวงอยู่”
ยายของน้องปิพูดกับเราพลางน้ำตาคลอเบ้า
คุณครูของน้องปิได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับเราว่า
“นอกเหนือจากน้องปิจะเป็นเด็กกตัญญูแล้วเธอยังเป็นประธานนักเรียน และมีผลการเรียนและความประพฤติดีมาก ได้รับความไว้วางใจจากโรงเรียนให้เป็นตัวแทนทำกิจกรรมต่างๆมากมาย อีกทั้งยังเป็นตัวแทนนักเรียนกล่าวต้อนรับและกล่าวขอบคุณแขกที่มาเยี่ยมชมโรงเรียนอยู่เป็นประจำอีกด้วย
”
สภาพน้ำท่วมโดยรอบหาดคูเดื่อ รวมถึงร้านอาหารต่างๆบริเวณนั้น ทำให้ปิยฉัตร และยายต้องขาดรายได้
น้องสาวทั้งสองคนของปิยฉัตรที่ปัจจุบันกำลังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล1 และชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ตามลำดับ
เด็กหญิงปิยฉัตร นนทวัน เป็นหนึ่งในนักเรียนยากจนที่สมัครขอรับทุน EDF ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นในปีการศึกษา 2555 นี้ ซึ่งจากการลงพื้นที่สำรวจของ EDF พบว่า ยังมีน้องๆที่สมัครขอรับทุนอีกจำนวนนับพันคน ที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายจังหวัด เช่น ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ บุรีรัมย์ มหาสารคาม หนองคาย และสุรินทร์เป็นต้น ซึ่งนอกจากผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่โดยตรงแล้ว ยังมีอีกเด็กๆอีกจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการที่พ่อแม่ต้องตกงานจากการไปเป็นแรงงานในกรุงเทพหรือในจังหวัดภาคกลางที่ประสบอุทกภัย เด็กๆเหล่านี้กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงของการต้องออกจากระบบการศึกษาเพื่อเข้าสู่ตลาดแรงงาน เนื่องจากผู้ปกครองที่ยากจนอยู่แล้วต้องขาดรายได้หรือตกงาน และเพื่อที่พวกเขาจะสามารถช่วยหารายได้จุนเจือครอบครัวหลังจากเหตุการณ์อุทกภัยผ่านพ้นไป
วันนี้ท่านสามารถร่วมเปลี่ยนแปลงอนาคตของเด็กๆเหล่านี้ได้ ผ่านโครงการทุนการศึกษา EDF เพื่อให้พวกเขาได้กลับไปเรียนหนังสืออีกครั้งหนึ่งในวันเปิดเทอมปีการศึกษา 2555 ที่กำลังจะมาถึงนี้
2011-11-28 |
เรื่องจริงของเด็กนักเรียนทุน EDF
| เปิดอ่าน 12504
ลงทะเบียนรับข้อมูลข่าวสาร EDF
มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา(EDF) 594/ 22 พาทิโอ เรสซิเดนซ์ รัชโยธิน ซอยพหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
โทร: 02-579-9209 ถึง11 | Line: @edfthai | อีเมล์:
[email protected]
Connect with EDF
มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนาเป็นองค์กรสาธารณกุศลลำดับที่ 255
ทุกการบริจาคผ่าน มูลนิธิฯ สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีตามกฎหมาย
© 2011 EDF-Thailand