หนูเป็นเด็กพิการ ตามองเห็นไม่ชัดเจน ลืมตาสู้แสงนานๆ ไม่ได้ หนูอาศัยอยู่กับปู่ย่า ส่วนพ่อกับแม่ไปทำงานรับจ้างต่างจังหวัด บ้านของหนูเป็นบ้านไม้สองชั้นอยู่ไกลจากหมู่บ้าน หนูมีพี่น้อง 2 คนรวมตัวหนูด้วย ครอบครัวของเรามีทั้งหมด 9 คน ปู่กับย่ามีอาชีพทำนาและเลี้ยงวัว แต่ข้าวที่เราปลูกขายได้ในราคาต่ำมากจึงทำให้รายจ่ายมากกว่ารายรับ พ่อกับแม่จึงต้องย้ายไปหางานรับจ้างทำที่ต่างจังหวัดเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว แต่เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาก็ประสบกับปัญหาโรคโควิด-19 ทำให้ขาดรายได้
เพราะสายตามองเห็นได้ไม่ชัดเจนเหมือนเพื่อนๆ น้องกุ๊กไก่จึงต้องนั่งแถวหน้าสุด
ของห้อง และตั้งใจเรียนมากกว่าเด็กนักเรียนคนอื่นๆ
น้องกุ๊กไก่มีความสุขที่ได้มาโรงเรียนเพราะนอกจากจะได้ความรู้แล้ว
ยังได้มาเจอและทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับเพื่อนๆ
ในห้องเรียน หนูต้องนั่งแถวหน้าสุดเพราะมองเห็นไม่ชัดเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ แต่หนูก็พยายามตั้งใจฟังสิ่งที่ครูสอน และมีความสุขที่ได้ไปโรงเรียนทุกๆ วัน เพราะได้ความรู้ และได้ไปเล่นกับเพื่อนๆ เพื่อนๆ จะคอยช่วยเหลือหนูตลอดเวลาที่อยู่โรงเรียนค่ะ หลังเลิกเรียนหนูจะช่วยทำงานบ้าน ล้างถ้วยล้างจาน กรอกน้ำ กวาดบ้าน เพราะปู่กับย่าต้องการฝึกให้หนูช่วยเหลือตัวเองเท่าที่จะทำได้
แม้จะเป็นเด็กนักเรียนพิการเพียงคนเดียวในโรงเรียน แต่น้องกุ๊กไก่ก็เป็นที่รัก
ของคุณครูและเพื่อนๆ ที่คอยให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอด
ในวันนี้ยังมีเด็กนักเรียนพิการอีกจำนวนมากที่มีศักยภาพในการเรียนร่วมในโรงเรียนปกติ
เหมือนเช่นน้องกุ๊กไก่ แต่ยังขาดโอกาสเพียงเพราะความยากจน
หนูชอบเรียนวิชาศิลปะ เพราะหนูเล่นกีฬาไม่ได้ จึงชอบนำสมุดมาวาดรูประบายสีเล่นกับเพื่อนๆ โตขึ้นหนูอยากเป็นคุณครู เพราะจะได้สอนหนังสือให้เด็กๆ ได้มีความรู้ หนูรู้สึกดีใจมากที่มีผู้บริจาคให้ทุนการศึกษาแก่หนู ในปีนี้หนูจึงสมัครขอรับทุนการศึกษาเพื่อจะได้กลับไปเจอเพื่อนๆ และคุณครูอีกครั้งในวันเปิดเทอมที่จะถึงนี้ค่ะ
หากได้รับทุนการศึกษาหนูจะนำไปซื้อชุดนักเรียนใหม่ และเป็นค่าเดินทาง และค่าขนมไปโรงเรียนค่ะ หนูขอบคุณที่ท่านเมตตาหนู หนูไม่มีอะไรจะตอบแทน นอกจากสัญญาว่าจะเป็นเด็กดีตั้งใจเรียนให้ดีที่สุดค่ะ
|