THA  ENG   JPN
หน้าหลัก > เรื่องจริงของเด็กนักเรียนทุน EDF > ชีวิตที่ถูกลืม
ชีวิตที่ถูกลืม

ในเพิงเก่าๆที่สร้างจากเศษวัสดุก่อสร้าง มุงด้วยหญ้าคาซึ่งแทบจะคุ้มแดดคุ้มฝนไม่ได้เลย ใครจะรู้ว่ามี 4 ชีวิตอาศัยอยู่รวมกันอย่างแออัด น้องขวัญ หรือเด็กหญิงขวัญฤดี นงจันทึก อายุ 12 ปี อาศัยอยู่ในที่ๆเธอบอกกับเราว่าเป็น “บ้าน” หลังนี้ กับตาและยาย และน้องต่างพ่ออายุ 2 ขวบอีกหนึ่งคน

พ่อแม่ของเธอแยกทางกันและต่างไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่เธอยังจำความไม่ได้ ทิ้งเธอให้อยู่ในความเลี้ยงดูของตาที่ขาพิการ และสุขภาพไม่ดีต้องผ่าตัดหลายครั้ง ทำได้เพียงแค่รับจ้างปะยางรถจักรยาน ส่วนยายก็ต้องช่วยครอบครัวอีกแรงด้วยการรับจ้างทั่วไปตามฤดูกาลเช่นเกี่ยวข้าว เก็บมันสำปะหลัง แต่ปีที่ผ่านมาผลผลิตไม่ค่อยดีจึงไม่ค่อยมีคนจ้างงาน อีกทั้งแม่ที่ไปมีครอบครัวใหม่ยังเอาลูกต่างพ่อของน้องขวัญอีกคนหนึ่งมาฝากไว้ให้กับตาและยายเลี้ยงอีก ทั้ง 4 ชีวิตจึงอยู่กันอย่างยากลำบาก อดมื้อกินมื้อ

 

   

น้องขวัญจะรู้สึกน้อยใจเสมอว่าเธอถูกลืม เพราะพ่อแม่ที่แยกทางกันไปแต่งงานใหม่ แต่ก็อยู่ในพื้นที่จังหวัดเดียวกัน แต่ไม่เคยแม้แต่จะมาเหลียวแลเธอเลย เธอเล่าให้เราฟังว่า “วันหนึ่งแม่กลับมาที่บ้าน หนูรู้สึกดีใจและคิดถึงแม่มากอยากจะเข้าไปกอดแม่ แต่แม่บอกว่ากลับมารับน้องไปเที่ยว แล้วก็กลับไปกับน้อง ตอนนั้นหนูเสียใจมาก เหมือนพ่อกับแม่ลืมไปแล้วว่ายังมีหนูอยู่อีกคน” แม้จะรู้สึกน้อยใจแต่น้องขวัญก็ไม่เคยโกธรหรือเกลียดน้องเลยแต่ดูแลน้องเป็นอย่างดี คุณครูของน้องขวัญเล่าให้เราฟังว่า “น้องขวัญเป็นเด็กเงียบ เก็บตัว และคิดมาก ตามประสาเด็กขาดความอบอุ่น แต่พอมีน้องมาอยู่ด้วย น้องขวัญก็ดูมีความสุขมากขึ้นจากการได้ดูแลน้อง และผลการเรียนก็ดีขึ้นด้วย”

หลังเลิกเรียนและวันหยุด น้องขวัญจะไปเก็บหน่อไม่ ไข่มดแดง จับปลาและเก็บผัก เพื่อนำมาขายและมาทำกับข้าวให้ตากับยายและน้อง น้องขวัญไม่เคยได้เงินค่าขนม ทุกวันน้องขวัญจะห่อข้าวเปล่ามาโรงเรียน โดยครูจะแบ่งอาหารจากโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนมาให้ บางวันครูก็จะแบ่งกับข้าวใส่ถุงไปให้กินที่บ้าน

วันนี้ "น้องขวัญ" ได้รับทุนการศึกษาจากผู้บริจาคทุน EDF เพื่อเรียนต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามการตัดสินใจของท่านเพื่อบริจาคทุนการศึกษาในวันนี้ จะช่วยเหลือเด็กๆในชนบทอีกจำนวนมากที่มีชีวิตไม่ต่างจาก น้องขวัญ ให้ได้มีโอกาสกลับไปเรียนหนังสืออย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกครั้ง

 

น้องขวัญจะรู้สึกน้อยใจเสมอว่าเธอถูกลืม เพราะพ่อแม่ที่แยกทางกันไปแต่งงานใหม่ แต่ก็อยู่ในพื้นที่จังหวัดเดียวกัน แต่ไม่เคยแม้แต่จะมาเหลียวแลเธอเลย เธอเล่าให้เราฟังว่า “วันหนึ่งแม่กลับมาที่บ้าน หนูรู้สึกดีใจและคิดถึงแม่มากอยากจะเข้าไปกอดแม่ แต่แม่บอกว่ากลับมารับน้องไปเที่ยว แล้วก็กลับไปกับน้อง ตอนนั้นหนูเสียใจมาก เหมือนพ่อกับแม่ลืมไปแล้วว่ายังมีหนูอยู่อีกคน” แม้จะรู้สึกน้อยใจแต่น้องขวัญก็ไม่เคยโกธรหรือเกลียดน้องเลยแต่ดูแลน้องเป็นอย่างดี คุณครูของน้องขวัญเล่าให้เราฟังว่า “น้องขวัญเป็นเด็กเงียบ เก็บตัว และคิดมาก ตามประสาเด็กขาดความอบอุ่น แต่พอมีน้องมาอยู่ด้วย น้องขวัญก็ดูมีความสุขมากขึ้นจากการได้ดูแลน้อง และผลการเรียนก็ดีขึ้นด้วย”

หลังเลิกเรียนและวันหยุด น้องขวัญจะไปเก็บหน่อไม่ ไข่มดแดง จับปลาและเก็บผัก เพื่อนำมาขายและมาทำกับข้าวให้ตากับยายและน้อง น้องขวัญไม่เคยได้เงินค่าขนม ทุกวันน้องขวัญจะห่อข้าวเปล่ามาโรงเรียน โดยครูจะแบ่งอาหารจากโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนมาให้ บางวันครูก็จะแบ่งกับข้าวใส่ถุงไปให้กินที่บ้าน
 

2010-06-06 | เรื่องจริงของเด็กนักเรียนทุน EDF | เปิดอ่าน 3695

ลงทะเบียนรับข้อมูลข่าวสาร EDF

มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา(EDF)
594/ 22 พาทิโอ เรสซิเดนซ์ รัชโยธิน ซอยพหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
โทร: 02-579-9209 ถึง11 | Line: @edfthai | อีเมล์: [email protected]
Connect with EDF        
มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนาเป็นองค์กรสาธารณกุศลลำดับที่ 255
ทุกการบริจาคผ่าน มูลนิธิฯ สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีตามกฎหมาย
© 2011 EDF-Thailand