ด.ช.นัสรุดดีน หรือน้องแบ อายุ 12 ปี กับบ้านสังกะสีเก่า ที่เขาอาศัยอยู่แม่และน้อง
แต่หลังจากการระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาทำให้ไม่สามารถออกไปรับจ้างกรีดยางได้เหมือนเคย และต้องขาดรายได้ ทั้ง 4 ชีวิตในครอบครัวที่มีความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นอยู่แล้วยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม ทุกวันนี้อาหารที่พอจะประทังชีวิตได้มาจากการเก็บพืชผักสวนครัวที่แม่ปลูกไว้ และมีรายได้เล็กน้อยจากการเก็บกล้วยไปขาย
น้องแบ กับครอบครัว ที่มีแม่ น้องสาว และน้องชายคนเล็ก
คุณครูบอกว่า "น้องแบเป็นเด็กมีความประพฤติดี ตั้งใจเรียน และมีความต้องการที่จะเรียนต่อสายวิชาชีพเพื่อเป็นช่างยนต์หลังจากเรียนจบชั้น ม.ต้น จะได้มีเงินมีรายได้มาดูแลแม่ และส่งเสียน้องๆ ให้ได้เรียน แต่ทุกวันนี้แม้แต่อาหารที่จะมีกินในแต่ละมื้อยังเป็นเรื่องยากลำบากเลย" คุณครูเลยไม่แน่ใจว่าน้องแบจะได้เรียนต่อชั้น ม.1 ในปีการศึกษา 2563 นี้หรือไม่ จึงได้สมัครขอรับทุนการศึกษาจากมูลนิธิ EDF เพื่อให้น้องได้เรียนต่อจนจบอย่างน้อย ม.3 และสานฝันในการเป็นช่างยนต์ เพื่ออนาคตที่ดีของตนเองและครอบครัวต่อไป
สภาพบ้านสังกะสีที่อยู่อาศัยของพวกเขา ที่พ่อสร้างไว้ก่อนเสียชีวิต
ภายในบ้านที่กระดานไม้เริ่มผุพัง พื้นห้องน้ำที่ต้องใช้ไม้ไผ่มาซ่อมแซม
น้องแบเป็นหนึ่งในเด็กนักเรียน 10,360 คน ในโครงการมูลนิธิ EDF ที่รอการอุปการะทุนการศึกษาในปี 2563 นี้ ซึ่งครอบครัวของเด็กๆ เหล่านี้ ล้วนได้รับผลกระทบจากวิกฤติโรคโควิด-19 ทำให้พวกเขากำลังตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะสูญเสียโอกาสในการเรียนต่อ ความช่วยเหลือจากท่านอาจช่วยให้พวกเขาผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ โปรดมอบโอกาสทางการศึกษาเพื่อต่อลมหายใจ และจุดประกายความหวังในการมีอนาคตที่ดีขึ้นจากการศึกษาให้แก่พวกเขาสักหนึ่งคน
|