นอกเหนือจากความขัดสนของครอบครัวแล้ว อีกหนึ่งชะตากรรมที่เด็กทั้งสองต้องเผชิญร่วมกันก็คือ "การพลัดพราก" และ "ขาดความรักความอบอุ่นจากพ่อแม่" โดยพ่อแม่ของ "ฮู้" ต้องดิ้นรนหนีจากความยากจนเพื่อไปหางานก่อสร้างทำไกลถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทิ้งให้ "ฮู้" ต้องอยู่กับย่า ซึ่งอายุมากแล้ว และยังป่วยเป็นโรคกระดูกและข้อ ทำให้เดินไม่สะดวก และทำงานไม่ได้ ทั้งสองย่าหลาน ดำรงชีวิตอยู่ด้วยรายได้จากเบี้ยยังชีพคนชรา ของย่าเดือนละ 800 บาท และเงินที่พ่อกับแม่ของ "ฮู้" ส่งมาให้บ้างเดือนละ 1,000-2,000 บาทเท่านั้น
“ฮู้” หรือ ด.ช. ธนากร นราพงษ์ อายุ 13 ปี และย่าวัย 73 ปี
ในขณะที่พ่อแม่ของ "เคอาร์" ส่งเขาให้มาอาศัยอยู่กับคนรู้จัก ซึ่งเป็นเจ้าของค่ายมวย เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว เพราะรายได้จากการรับจ้างทั่วไปของพ่อแม่ไม่แน่นอน โดย "เคอาร์" ได้มีโอกาสฝึกมวยไทย และขึ้นชกตามเวทีต่างๆ เพื่อหารายได้พิเศษ นำเงินมาเป็นค่ากินอยู่ ค่าขนมไปโรงเรียน และเหลือส่งไปให้พ่อแม่บ้าง
“เคอาร์” หรือ ด.ช.ศักรินทร์ สมใจ อายุ 13 ปี
"ฮู้" มีพี่ชายอีก 1 คน แต่มีโอกาสได้เรียนจบแค่ชั้นม.3 และตอนนี้ไปช่วยพ่อแม่ทำงานก่อสร้าง อยู่ที่สุราษฎร์ธานี นอกจากการเรียนหนังสือแล้ว "ฮู้" ยังชอบเตะฟุตบอล และมีความฝันอยาก จะหาทุนเรียนต่อชั้นม.4 ในโรงเรียนกีฬาประจำจังหวัด เพื่อที่ในอนาคตจะได้เป็นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ หรือโค้ชฟุตบอล จะได้มีรายได้มาดูแลพ่อแม่ และครอบครัว และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ
"ฮู้" มีความฝันอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และอยากเรียนต่อระดับมัธยมปลายในโรงเรียนกีฬา
ส่วน "เคอาร์" มีความฝันอยากจะเป็นนักมวยอาชีพ นอกจากจะต้องช่วยงานต่างๆในค่ายมวยแล้ว "เคอาร์" ยังต้องตื่นนอนตั้งแต่ตีห้า เป็นประจำทุกวัน เพื่อวิ่งออกกำลังกายให้ได้ 4-5 กิโลเมตร จากนั้นก็ลงกระสอบทราย แล้วจึงค่อยอาบน้ำแต่งตัว และเดินเท้าไปโรงเรียน ตอนเย็นหลังเลิกเรียนก็เช่นกัน ต้องรีบกลับมาทำการบ้าน และฝึกซ้อมต่อจนถึงค่ำ แม้จะเป็นสิ่งที่ไม่ง่ายเลยสำหรับเด็กในวัยเดียวกัน แต่ "เคอาร์" ก็อดทนฝึกซ้อม และตั้งใจเรียนหนังสือควบคู่กันไป และมีความสุขที่ได้ทำตามความฝันของตนเอง
"เคอาร์" มีความฝันอยากเป็นนักมวยอาชีพ จะได้มีรายได้มาเลี้ยงดูพ่อแม่และครอบครัว
โดยทั้งสองได้แสดงความขอบคุณถึงผู้บริจาคทุนการศึกษาที่ได้ให้โอกาสพวกเขาได้เรียนหนังสือ และช่วยครอบครัวแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายทางการศึกษา โดยทั้งสองสัญญาว่า จะใช้เงินทุนให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดต่อการเรียน เป็นเด็กดี และจะตั้งใจเรียนหนังสือให้ดีที่สุด เพื่อทำความฝันให้เป็นจริง
"ความฝัน" ของ "ฮู้" และ "เคอาร์" เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ "ความฝันที่เข้าใกล้ความเป็นจริง" ของเด็กนักเรียนทุน จำนวน 7,219 คน ที่ได้รับการอุปการะทุนการศึกษาไปแล้วในรอบเทอม 1/2558 ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามในวันนี้ ยังคงมีเด็กนักเรียนอีกกว่า 2,700 คน ที่ยังรอคอย "โอกาสทางการศึกษา" เพื่อที่จะได้สานต่อความฝัน ที่จะมี "อนาคตที่ดีขึ้นจากการศึกษา" เช่นเดียวกับเด็กๆที่ได้รับทุนคนอื่นๆ โดยท่านสามารถ "ร่วมบริจาคทุนการศึกษา" ให้แก่เด็กๆที่ยังขาดผู้อุปการะทุนการศึกษาเหล่านี้ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 30 กันยายน 2558 นี้
|