น้องนุ๊กจึงต้องช่วยแม่ทำงานรับจ้างในวันหยุดอยู่เสมอ และช่วยงานบ้าน ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ แต่ในช่วงหน้าฝนงานรับจ้างไม่ค่อยมี แม่และน้องนุ๊กจึงหารายได้เสริมด้วยการหาของป่ามาขาย โดยทุกวันเสาร์-อาทิตย์ น้องนุ๊กต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่อเดินทางเข้าป่ากับแม่ เพื่อหาเห็ดและหน่อไม้ป่า โดยจะใช้เวลาอยู่ในป่า ถึงประมาณ 10 โมงเช้าเพื่อนำของที่หาได้มาเตรียมบรรจุถุงเพื่อนำไปขายที่ตลาด โดยลูกค้าก็คือชาวบ้านในหมู่บ้าน หรือคุณครูที่โรงเรียน โดยเห็ดจะขายได้ถุงละ 10 บาท ส่วนหน่อไม้ถุงละ 15 บาท (ถุงละประมาณ 5 ขีด) ได้รายได้ครั้งละประมาณ 200 บาท
หน่อไม้ที่น้องนุ๊กบรรจุถุงเรียบร้อยแล้วเพื่อเตรียมนำไปขายในตลาดวันนี้
ความยากลำบากคือสองแม่ลูกต้องนำหลานๆทั้ง 3 แบกใส่หลังเข้าป่า ด้วยทุกครั้งเพราะไม่มีคนดูแล และต้องเผชิญอันตรายจากทางขึ้นเขาที่เปียกลื่น และสัตว์มีพิษต่างๆเช่นงูและตะขาบที่มักอาศัย อยู่ตามกอไผ่ และที่อับชื้นต่างๆในป่า หลายครั้งที่น้องนุ๊กลื่นล้มแต่โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก
น้องนุ๊กและคุณแม่ขณะกำลังหาหน่อไม้ป่า
น้องนุ๊กกำลังเตรียมปอกเปลือกและทำความสะอาดหน่อไม้ที่เก็บได้เพื่อนำไปบรรจุถุงต่อไป
คุณครูบอกกับเราว่า “ น้องนุ๊กเป็นเด็กที่สู้ชีวิตคนนึง เป็นเด็กเรียบร้อย ขยัน มีความสามารถด้านการ แกะสลักผัก และผลไม้จนได้เป็นตัวแทนโรงเรียนประกวดงานศิลปหัตถกรรมอยู่บ่อยครั้ง ดีใจที่นักเรียน ได้รับทุนจาก EDF เพราะทำให้เด็กมีกำลังใจในการเรียน และเป็นการให้โอกาสเด็กที่ยากจน ได้เรียนอย่างเต็มกำลัง ความสามารถของตนเอง”
น้องนุ๊กพูดถึงความรู้สึกที่เธอได้รับทุนการศึกษาว่า “หนูขอขอบพระคุณผู้มอบทุนการศึกษาให้แก่ หนูเป็นอย่างสูงค่ะ เงินทุนการศึกษาที่ได้รับส่วนหนึ่งหนูเก็บไว้เพื่อใช้ในการเรียนต่อ หากหนูมีโอกาส ได้เรื่องต่อสูงๆหนูจะตั้งใจเรียนให้เต็มที่ เพื่อที่อนาคตหนูจะได้เป็นครูที่ดีต่อไปค่ะ”
น้องนุ๊กและครูประจำชั้นของเธอ
|